5 ปัญหาผิวพรรณยอดฮิต แก้ได้ด้วยวิตามิน

{ วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 }




5 ปัญหาผิวพรรณยอดฮิต แก้ได้ด้วยวิตามินค่ะ

1. ปัญหารอยจาง ๆ บนใบหน้าหรือรอยย่นของวัย
เลือกใช้ : วิตามินเอ

นอกจากการเลือกใช้เครื่องสำอาง เพื่ออำพรางริ้วรอยต่าง ๆ ของวัยแล้ว
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอล หรือ เรตินเอ ซึ่งเป็น
วิตามินเอชนิดหนึ่ง ก็สามารถลดริ้วรอยจาง ๆ ของผิวได้ โดยมีผลการ
วิจัยจาก วารสารของสมาคมแพทย์ผิวหนังของสหรัฐ ล่าสุด ยืนยันว่า
ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอลเอ ในปริมาณเพียง 1 % ก็เพียงพอ
ที่จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้โครงสร้างของผิวมีความ
ยืดหยุ่นดีขี้น และช่วยลดริ้วรอยของวัยได้ แต่เครื่องสำอางโดยทั่วไป
มักมี เรตินอลเอ ในปริมาณ 0.05-0.5 % จึงอาจทำให้เห็นผลได้ช้าขึ้น
ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จึงควรตรวจสอบว่า มีเรตินอลเอ
อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมหรือไม่

2. ปัญหาผิวบอบบาง แพ้ง่าย
เลือกใช้ : วิตามินบี 3

สำหรับคนที่ผิวบอบบาง แพ้ง่าย แพทย์ผิวหนังส่วนใหญ่จะไม่แนะนำให้
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว โดยเฉพาะ ผลิตภัณฑ์ประเภท
glycolic , salicylic acid รวมทั้ง AHA เพราะผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะค่อนข้าง
รุนแรงต่อผิว และอาจทำให้เกิดปัญหาการแพ้ได้มากขึ้น Zoe Draelos
แพทย์ผิวหนังจากมหาวิทยาลัย เวค ฟอเรส ในนิวยอร์ค แนะนำให้ผู้ที่
มีปัญหาผิวบอบบาง แพ้ง่าย ใช้ครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินบี 3 หรือ
ไนอาซิน (niacin) ซึ่งจะมีความเป็นกรดต่ำ จึงทำให้ระคายเคืองต่อผิว
ได้น้อยกว่า

3. ปัญหาผิวพรรณจากแสงแดด ( กระ ฝ้า และริ้วรอย)
เลือกใช้ : วิตามินซี

มีผลการศึกษาที่ลงพิมพ์ในวารสาร the Journal of Applied Cosmetology
ฉบับเดือนตุลาคม 1999 ระบุว่า วิตามินซี มีผลดีต่อผิวโดยทำหน้าที่
เหมือน สารแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสีของแสงแดด
รวมทั้งมลภาวะต่าง ๆ ที่อาจทำให้เกิด กระ จุดด่างดำบนผิวหน้า รวมทั้ง
อาจทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ แต่อย่างไรก็ตาม การจะได้ผลิตภัณท์ที่มี
ส่วนผสมของวิตามินซี ให้ได้ผลนั้น ลิตภัณฑ์ดังกล่าว ควรมีวิตามินซี
ผสมอยู่ในปริมาณ 10 % หรือสูงกว่า และควรใช้ทุกวันก่อนออกจากบ้าน
เหมือนกับการใช้ครีมป้องกันแดด

4. ปัญหาผิวแห้ง หรือผิวหยาบกร้าน
เลือกใช้ : วิตามินบี 5 หรือวิตามินอี

วิตามินทั้งสองชนิดนี้ มักจะรู้จักดีว่า เป็นเสมือนสารมอยส์เจอร์ไรเซอร์
ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว แต่วิตามินอียังทำหน้าที่เป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์
ได้ดีอีกด้วย แต่ผลการวิจัยจาก มหาวิทยาลัยไมอามี เมื่อเร็ว ๆนี้
ระบุว่า ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินที่มีขายกันในตอนนี้ ยังไม่มี
ผลดีต่อการลดริ้วรอย แพทย์ผิวหนังจึงแนะนำให้ใช้วิตามิน เพื่อเพิ่ม
ความชุ่มชื้นให้แก่ผิวมากกว่าที่จะหวังผลในด้านช่วยลดริ้วรอยของวัย


5. ปัญหารอยคล้ำใต้ตา
เลือกใช้ : วิตามินเค เรตินอลเอ หรือวิตามินซี

ปัญหารอยคล้ำใต้ตานั้น บางครั้งก็ไม่ได้เกิดจากการอดนอนเสมอไป
เพราะอาจจะมีสาเหตุมาจากการเป็น โรคภูมิแพ้ การขยี้ตาบ่อย ๆ
สูบบุหรี่ หรือจากกรรมพันธุ์ก็ได้

วิตามินเค จะช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น จึงทำให้สีผิว
บริเวณนี้หายคล้ำลงได้ และมีผลการวิจัยล่าสุด พบว่า การใช้วิตามินเค
1 % ผสมกับ เรตินอลเอ ปริมาณ 0.15 % จะมีผลดีต่อการลดรอยคล้ำ
ใต้ตาได้อย่างชัดเจนขึ้น แต่ก็อาจจะเกิดปัญหาระคายเคืองได้บ้าง
Jeffrey Blumberg ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัย Tufts บอกว่า วิตามินซี
ก็ช่วยแก้ปัญหารอยคล้ำใต้ตาได้ดีเช่นกัน

แม้ว่าเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของวิตามินต่าง ๆ จะช่วยแก้ปัญหา
ของผิวพรรณได้ก็ตาม แต่ Jeffrey Blumberg ก็ยอมรับว่า การรับประทาน
อาหารในสัดส่วนที่เหมาะสม ทำให้คุณได้รับวิตามินสำคัญ ๆ ที่ร่างกาย
ต้องการอย่างครบถ้วน ก็การันตีได้ว่า คุณจะมีสุขภาพแข็งแรง
และย่อมจะมีผลดีต่อผิวพรรณในระยะยาวอีกด้วย

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น